20 กรกฎาคม 2565
Smart Contract ‘สัญญาอัจฉริยะ’ ที่ทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
Smart Contract หรือ ‘สัญญาอัจฉริยะ’ เป็นชุดโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นด้วยข้อตกลงที่ถูกกำหนดขึ้นมาก่อนระหว่างคู่สัญญา เพื่อนำไปเขียนเป็นเงื่อนไขของโปรแกรม จุดเด่นของ Smart Contract คือมันจะถูกเขียนลงบน Blockchain และเมื่อมี Transaction ที่ตรงตามเงื่อนไข ตัวสัญญาก็จะทำ (Execute) สิ่งที่เขียนไว้ตาม Contract และถูกตรวจสอบความถูกต้องด้วย Blockchain
ดังนั้น การนำ Smart Contract มาใช้ จึงได้รับผลดีจากคุณสมบัติของ Blockchain ด้วย ซึ่งก็คือ ความโปร่งใส่ สามารถตรวจสอบได้ เมื่อถูกนำมาใช้แล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือถูกทำลาย
ปกติการทำธุรกรรมใดๆ จะมีธนาคารเป็นตัวกลางในการจัดการและตรวจสอบการทำธุกรรมต่างๆ แต่หากนำ Smart Contract มาใช้ ก็จะสามารถทำในสิ่งที่ธนาคารทำได้โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางเพราะเป็นระบบ Decentralized
ด้วยความสามารถของ Smart Contract จึงสามารถทำในสิ่งที่เป็นรูทีน (Routine) ได้แบบอัตโนมัติ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้มีหลายฝ่ายที่เริ่มก้าวเข้าสู่การทำ dApps (Decentralized Application) เพราะมีความมั่นคงและปลอดภัยทางด้านข้อมูล นั่นเอง
**การใช้งาน Smart Contract กับวงการเกม**
NFT Gaming ถูกพูดว่าเป็นอนาคตของ Crypto โดยในช่วงที่ผ่านมา มีหลายเกมที่พัฒนาขึ้นมาให้อยู่ในรูปแบบ dApps มีการนำ Smart Contract มาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเกม จากเดิมเกมจะเป็นไปในรูปแบบ Pay to Play ที่ผู้เล่นต้องเติมเงินให้กับเกมนั้นเพื่อซื้อ Item บางชนิด ซึ่งหากวันหนึ่งผ้เล่นเกิดเลิกเล่นเกมนั้นไป เงินที่เติมไปนั้นก็จะหมดมูลค่าทันที แต่ปัจจุบันนี้ในอุตสาหกรรมเกมได้มีแนวคิดแบบ Play to Earn (เกมที่เล่นแล้วได้เงิน) โดยผู้เล่นจะถือว่าเป็นเจ้าของที่แท้จริงของ Item ในเกมนั้น ในรูปแบบของ NFT หากเลิกเล่นเกมนั้นไปก็สามารถขายต่อให้ผู้อื่นได้
**การใช้งาน Smart Contract ในหน่วยงานรัฐ**
ในบางประเทศได้มีการนำเอา Blockchain และ Smart Contract มาช่วยในการทำงานของภาครัฐ ช่วยให้สามารถ ลดปริมาณการใช้กระดาษ ลดกระบวนการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ลดการทุจริตในการทำงาน เพราะประชาชนสามารถตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐได้อย่างโปร่งใส เพราะอย่างที่ผู้เขียนได้กล่าวไปในตอนต้น
การติดตามการฉีดวัคซีนเป็นตัวอย่างหนึ่งของการนำ Smart Contract มาใช้ในวงการแพทย์ โดยการบันทึกข้อมูลการฉีดวัคซีนลงบน Blockchain จะช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบการฉีดวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งใน Smart Contract อาจจะมีการระบุเงื่อนไขต่างๆ เช่น การได้รับสิทธิประโยชน์ใดๆ ทางการแพทย์
**การใช้งาน Smart Contract ร่วมกับ AI **
นอกจากนี้หากนำเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ มาประยุกต์ใช้ จะทำให้ Smart Contract มีความรู้และสามารถตัดสินใจได้ใกล้เคียงกับมนุษย์ ยิ่ง AI ได้รับข้อมูลมากเท่าไร การประมวลผลก็จะยิ่งมีความแม่นยำขึ้น โดย AI สามารถเรียนรู้การเจรจาครั้งก่อนหน้า และสามารถหาข้อตกลงที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ การนำ AI มาตรวจสอบ Smart Contract ที่เคยเขียนไปก่อนหน้านั้นจะสามารถทำให้ตัวแปรบางตัวที่ถูกมองข้าม นำมาเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาใหม่
AI และ Blockchain หากนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน แต่ละเทคโนโลยีจะช่วยส่งเสริมการทำงานของกันและกัน AI จำเป็นจะต้องมีข้อมูลในการเรียนรู้และประมวลผล โดยข้อมูลที่นำมาเรียนรู้นั้นจำเป็นจะต้องเป็นข้อมูลที่ปลอดภัย และเชื่อถือได้ ดังนั้นข้อมูลใน Blockchain จึงถือว่าเป็นฐานข้อมูลที่เหมาะสมในการที่ให้ AI นำไปใช้ และ AI เองก็สามารถช่วยให้ Smart Contract ฉลาดขึ้นได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น AI และ Blockchain ต่างก็ใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายในการพัฒนาค่อนข้างสูง แต่หากสามารถพัฒนา Smart Contract ให้มีความสามารถในการตอบสนองและตัดสินใจได้อย่างมนุษย์ ก็ยิ่งเพิ่มมูลค่าและมีการนำไปใช้มากขึ้น
จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นว่า Smart Contract สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลายอุตสาหกรรม ปัจจุบันได้มีหลายบริษัททำ Application ในรูปแบบ dAapps มากขึ้น มีการออก Token เพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ต่างๆ ทำให้ผู้คนค่อยๆคุ้นชินและรู้จักเทคโนโลยี Blockchain ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ
โดยยิ่ง Blockchain และ Smart Contract มีการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากเท่าไร การพูดถึง Blockchain และ Smart Contract ก็จะไม่ใช่เพียงแค่ศัพท์ของคนเฉพาะกลุ่ม แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเรียนรู้ เข้าใจ และสามารถปรับตัว และหาทางใช้ประโยชน์จากมันได้
ดังนั้น การนำ Smart Contract มาใช้ จึงได้รับผลดีจากคุณสมบัติของ Blockchain ด้วย ซึ่งก็คือ ความโปร่งใส่ สามารถตรวจสอบได้ เมื่อถูกนำมาใช้แล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือถูกทำลาย
ปกติการทำธุรกรรมใดๆ จะมีธนาคารเป็นตัวกลางในการจัดการและตรวจสอบการทำธุกรรมต่างๆ แต่หากนำ Smart Contract มาใช้ ก็จะสามารถทำในสิ่งที่ธนาคารทำได้โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางเพราะเป็นระบบ Decentralized
ด้วยความสามารถของ Smart Contract จึงสามารถทำในสิ่งที่เป็นรูทีน (Routine) ได้แบบอัตโนมัติ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้มีหลายฝ่ายที่เริ่มก้าวเข้าสู่การทำ dApps (Decentralized Application) เพราะมีความมั่นคงและปลอดภัยทางด้านข้อมูล นั่นเอง
**การใช้งาน Smart Contract กับวงการเกม**
NFT Gaming ถูกพูดว่าเป็นอนาคตของ Crypto โดยในช่วงที่ผ่านมา มีหลายเกมที่พัฒนาขึ้นมาให้อยู่ในรูปแบบ dApps มีการนำ Smart Contract มาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเกม จากเดิมเกมจะเป็นไปในรูปแบบ Pay to Play ที่ผู้เล่นต้องเติมเงินให้กับเกมนั้นเพื่อซื้อ Item บางชนิด ซึ่งหากวันหนึ่งผ้เล่นเกิดเลิกเล่นเกมนั้นไป เงินที่เติมไปนั้นก็จะหมดมูลค่าทันที แต่ปัจจุบันนี้ในอุตสาหกรรมเกมได้มีแนวคิดแบบ Play to Earn (เกมที่เล่นแล้วได้เงิน) โดยผู้เล่นจะถือว่าเป็นเจ้าของที่แท้จริงของ Item ในเกมนั้น ในรูปแบบของ NFT หากเลิกเล่นเกมนั้นไปก็สามารถขายต่อให้ผู้อื่นได้
**การใช้งาน Smart Contract ในหน่วยงานรัฐ**
ในบางประเทศได้มีการนำเอา Blockchain และ Smart Contract มาช่วยในการทำงานของภาครัฐ ช่วยให้สามารถ ลดปริมาณการใช้กระดาษ ลดกระบวนการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ลดการทุจริตในการทำงาน เพราะประชาชนสามารถตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐได้อย่างโปร่งใส เพราะอย่างที่ผู้เขียนได้กล่าวไปในตอนต้น
การติดตามการฉีดวัคซีนเป็นตัวอย่างหนึ่งของการนำ Smart Contract มาใช้ในวงการแพทย์ โดยการบันทึกข้อมูลการฉีดวัคซีนลงบน Blockchain จะช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบการฉีดวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งใน Smart Contract อาจจะมีการระบุเงื่อนไขต่างๆ เช่น การได้รับสิทธิประโยชน์ใดๆ ทางการแพทย์
**การใช้งาน Smart Contract ร่วมกับ AI **
นอกจากนี้หากนำเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ มาประยุกต์ใช้ จะทำให้ Smart Contract มีความรู้และสามารถตัดสินใจได้ใกล้เคียงกับมนุษย์ ยิ่ง AI ได้รับข้อมูลมากเท่าไร การประมวลผลก็จะยิ่งมีความแม่นยำขึ้น โดย AI สามารถเรียนรู้การเจรจาครั้งก่อนหน้า และสามารถหาข้อตกลงที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ การนำ AI มาตรวจสอบ Smart Contract ที่เคยเขียนไปก่อนหน้านั้นจะสามารถทำให้ตัวแปรบางตัวที่ถูกมองข้าม นำมาเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาใหม่
AI และ Blockchain หากนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน แต่ละเทคโนโลยีจะช่วยส่งเสริมการทำงานของกันและกัน AI จำเป็นจะต้องมีข้อมูลในการเรียนรู้และประมวลผล โดยข้อมูลที่นำมาเรียนรู้นั้นจำเป็นจะต้องเป็นข้อมูลที่ปลอดภัย และเชื่อถือได้ ดังนั้นข้อมูลใน Blockchain จึงถือว่าเป็นฐานข้อมูลที่เหมาะสมในการที่ให้ AI นำไปใช้ และ AI เองก็สามารถช่วยให้ Smart Contract ฉลาดขึ้นได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น AI และ Blockchain ต่างก็ใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายในการพัฒนาค่อนข้างสูง แต่หากสามารถพัฒนา Smart Contract ให้มีความสามารถในการตอบสนองและตัดสินใจได้อย่างมนุษย์ ก็ยิ่งเพิ่มมูลค่าและมีการนำไปใช้มากขึ้น
จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นว่า Smart Contract สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลายอุตสาหกรรม ปัจจุบันได้มีหลายบริษัททำ Application ในรูปแบบ dAapps มากขึ้น มีการออก Token เพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ต่างๆ ทำให้ผู้คนค่อยๆคุ้นชินและรู้จักเทคโนโลยี Blockchain ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ
โดยยิ่ง Blockchain และ Smart Contract มีการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากเท่าไร การพูดถึง Blockchain และ Smart Contract ก็จะไม่ใช่เพียงแค่ศัพท์ของคนเฉพาะกลุ่ม แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเรียนรู้ เข้าใจ และสามารถปรับตัว และหาทางใช้ประโยชน์จากมันได้
Related posts ✌️
Cancel
Link copied